++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2557

จะเกิดอะไร ถ้าจีดีพีโตแค่ 3%




จําได้ว่าช่วงปลายๆ ปี สำนักพยากรณ์เศรษฐกิจต่างๆ ทำนายว่า ปีนี้เศรษฐกิจจะดีกว่าปีก่อนจากปัจจัยเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท กำลังจะเดินหน้า โครงการบริหารจัดการระบบน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ก็กำลังลุ้น ทั้งหลายทั้งปวงล้วนเป็น "เครื่องยนต์" ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เพริศแพร้วศิวิไลซ์

แต่ความไม่แน่นอนคือสิ่งที่แน่นอนที่สุด ทุกอย่างกลับตาลปัตรเมื่อ พ.ร.บ. 2 ล้านล้านถูกคว่ำ งบลงทุนระบบน้ำก็ไม่คืบ จนถึงนาทีนี้สำนักพยากรณ์ต่างๆ พร้อมใจทยอยปรับลดตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจหรือ "จีดีพี" ใกล้เคียงกันคือ ต่ำกว่า 3%

แม้แต่กูรูใหญ่ "ดร.วีรพงษ์ รามางกูร" ประธานที่ปรึกษาเศรษฐกิจ รัฐบาลยังฟันธงว่าเศรษฐกิจปีนี้ "ติดลบ" แน่ เพราะการเมืองเป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้ ล่าสุดสดๆ ร้อนๆ "เวิลด์แบงก์" ได้ปรับลดจีดีพีไทยเหลือแค่ 3% เรียบร้อย แถมยังย้ำว่าจีดีพีไทยปีนี้ต่ำที่สุดในอาเซียน

ถามว่าหากเศรษฐกิจต่ำกว่า 3% เป็นอย่างนี้หลายๆ ปีติดต่อกัน จะเกิดอะไรขึ้น ตอบแบบไม่ต้องคิดมาก คือเราจะอยู่ลำบากมากขึ้น รายได้ในกระเป๋าก็หดหายเพราะขายของไม่ได้ ไม่มีใครมาลงทุน กำลังซื้อไม่มี รายได้ฝืดเคือง ยิ่งถ้ามีหนี้ต่างประเทศ ไม่มีรายได้เพียงพอจะมาโปะหนี้ก็จะพอกพูนกลายเป็นดินพอกหางหมู

โดยปกติหากเศรษฐกิจไม่โตหรือติดลบ ผลกระทบอันดับแรกคือ คนตกงาน เหมือนปี 2524-2525 ที่บัณฑิตจบใหม่หางานทำไม่ได้ต้องเตะฝุ่น จบวิศวะมาขายประกัน ทุกวันนี้โชคดีอยู่หน่อยที่ประเทศไทยไม่มีปัญหาคนตกงานแถมยังขาดแคลน แรงงานไม่พอแต่ก็เริ่มมีนักศึกษาที่จบมาบางสาขาหางานทำยากขึ้นบ้างแล้ว

ฉะนั้น จีดีพีต่ำกว่า 3% เศรษฐกิจไทยคงไม่ถึงกับแตกดังโพละทันทีเหมือนวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 แต่จะซึมลึกไปเรื่อยๆ ฐานะความเป็นอยู่คนไทยก็คงไม่อู้ฟู่แต่คงไม่ถึงกับยากแค้น แค่แอบอิจฉามาเลย์ อินโดฯ ฟิลิปปินส์ ที่ปีนี้เขาคาดว่า จีดีพีจะโตราวๆ 6% เท่านั้นเอง

คอลัมน์ เมืองไทย 25 น./ทวี มีเงิน
ข่าวสดออนไลน์, 11 เมษายน 2557

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น