++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอังคารที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2557

แม่ครับ..ขอทำงานกับคุณสนธิ ชาตินี้ชาติเดียวพอแล้ว!

แม่ครับ..ขอทำงานกับคุณสนธิ ชาตินี้ชาติเดียวพอแล้ว!

สองสามวันนี้ใจไม่นิ่งเอาเลยใจไม่สบายเอาเสียเลย! ไปเยี่ยมคุณสนธิมา หลังจากที่ต้องเดินทางจากศาลมาเรือนจำคืนแรก ชวนภรรยาตื่นเช้าหลังจากส่งลูกไปโรงเรียนก็แวะมาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ไปพบหน้าไปให้เห็นว่าคุณสนธิเป็นอย่างไรบ้าง ไปจองคิวกับพี่อมร อมรรัตนานนท์ ตั้งแต่ก่อนแปดโมง และรู้ว่าพี่ๆน้องๆทั้งที่ทำงาน ทั้งญาติ ทั้งพันธมิตรคนรักคุณสนธิคงมากันมาก ก็เลยจองคิวเผื่อคนอื่นๆ ด้วย สองสามวันนี้ใจไม่นิ่งเอาเลยใจไม่สบายเอาเสียเลย! ไปเยี่ยมคุณสนธิมา หลังจากที่ต้องเดินทางจากศาลมาเรือนจำคืนแรก ชวนภรรยาตื่นเช้าหลังจากส่งลูกไปโรงเรียนก็แวะมาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ไปพบหน้าไปให้เห็นว่าคุณสนธิเป็นอย่างไรบ้าง ไปจองคิวกับพี่อมร อมรรัตนานนท์ ตั้งแต่ก่อนแปดโมง และรู้ว่าพี่ๆน้องๆทั้งที่ทำงาน ทั้งญาติ ทั้งพันธมิตรคนรักคุณสนธิคงมากันมาก ก็เลยจองคิวเพื่อเข้าเยี่ยมที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพเอาไว้ตอน 10 โมงครึ่งเผื่อคนอื่นๆด้วย เพราะหากเยี่ยมก่อน คนอื่นก็จะไม่ได้เยี่ยม ติดต่อกับเจ้าหน้าที่เรือนจำก็ขอจองไว้ที่10โมงครึ่ง

สามชั่วโมงหน้าเรือนจำเวลาช่างผ่านไปไวมากๆ พี่ไก่ พี่ติ๋ม พี่ผู้หญิงสองคนที่ต้องตามกันมากับคุณสนธิ เป็นคุณแม่ของลูกๆ ที่กำลังเรียนหนังสือ พี่ไก่จะเป็นคนคอยให้บริการ ดูแลเสื้อที่ระลึกของมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน พี่น้องพันธมิตรโทรมาถามผมว่า คุณเสาวลักษณ์ เป็นใครผมก็บอกว่าคุณพี่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คอยทำเสื้อยืดที่ระลึกของมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินมาให้พี่น้องพันธมิตรใส่ในช่วงการต่อสู้นั้นแหละ!

ผมจบจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ปี 2531 มาทำงานเป็นผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ พี่ไก่นี่แหละคอยดูแลอำนวยความสะดวกให้กับกองบรรณาธิการ ยามต้องทำหนังสือเบิกจ่ายในการทำข่าวเมื่อกลับจากการทำข่าวที่ต่างจังหวัด พี่ติ๋มอีกคนที่คอยให้เราต้อง ทำรายละเอียดบิลใบเสร็จค่าใช้จ่ายเวลาไปทำข่าวต่างจังหวัดกลับมา ก็ต้องชี้แจงเคลียค่าใช้จ่ายให้ตรงกับเงินที่เบิกไปจากกองบรรณาธิการ เกือบสามสิบปีแล้วที่ชีวิตความผูกพันธ์ของคนที่ทำงานในองค์กรสื่อมวลชนค่ายผู้จัดการ มีทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุโทรทัศน์ และ manager online สื่อทางอินเตอร์เน็ตที่มีอิทธิพลต่อการรับรู้ข่าวสารของคนที่บริโภคข่าวสารในสังคมไทย ก่อนหน้าปี2540 ค่ายผู้จัดการเคยได้รับสัมปทานการยิงดาวเทียมของประเทศลาว เพราะประเทศไทยทักษิณเอาสิทธิไปก่อนแล้วในการดำเนินการยิงดาวเทียม วิกฤตการณ์การเงินปี2540 มีคนที่อยู่ในอำนาจ ทั้งนักการเมืองและนักธุรกิจได้ประโยชน์จากการรู้ล่วงหน้าของการลดค่าเงินบาท ทักษิณและพวกก็ร่ำรวย คนอื่นๆพินาศย่อยยับ ล้มละลาย แม้แต่สถาบันการเงิน ธนาคาร บริษัทต่างๆ ที่ต้องไปกู้เงินจากต่างประเทศ ยังไม่ทันได้เริ่มต้นธุรกิจกันเลย ก็ขาดทุนกันป่นปี้ เพราะการลดค่าเงินบาท คุณสนธิก็เป็นหนึ่งในชะตากรรมที่ต้องเจ็บหนัก กองบรรณาธิการข่าวระส่ำระสาย อดมื้อกินมื้อ บางคนก็อดหลายมื้อ ไม่อยากล้มละลายก็ต้องถูกบังคับให้ล้มละลาย นี่คือทุนนิยมสามานย์ระลอกแรกที่มาพร้อมลมหนาวตะวันตก สังคมไทยระเนระนาด เพราะไม่มีภูมิคุ้มกัน ภูมิปัญญามีไม่พอที่จะทัดทานทุนสามานย์ได้ในขณะนั้น ประจวบกับประเทศไทยมีคนขายชาติทำลายคนในประเทศกันเอง.. ภายใต้ทุนนิยมสามานย์ ไม่มีประเทศ ไม่มีชาติ ไม่มีคุณธรรม ชีวิตคนในประเทศผู้ไม่เท่าทัน จึงกลายเป็นเถ้าธุลีแห่งความโลภและการตักตวงสูบประโยชน์ของทุนตะวันตก นี่คือต้นเรื่องที่เป็นเหตุให้คุณสนธิมีคดีที่ยาวนานเกือบยี่สิบปี ที่ต้องเป็นเหยื่อของระบบแห่งอำนาจ

ชีวิตของคนทำสื่ออย่างคุณสนธิ ลิ้มทองกุล พบเจออะไรบ้างในการรับรู้ของผม ผมจำได้ว่าในยุคนั้นมีผู้มีอิทธิพลเป็นเจ้าพ่อ กองบรรณาธิการของผู้จัดการไปขุดคุ้ยตามกลิ่นเน่าในสังคมไทย มีการเขียนเปิดโปงเจ้าพ่อมาเฟียใหญ่ในกรุงเทพ เจ้าพ่อมาเฟียไม่สบอารมณ์ก็โทรศัพท์มาถึงกอง บก.บอกว่าอยากพบเจ้าของหนังสือพิมพ์หน่อย! คุณสนธิ ก็สั่งความไปว่าหากอยากมาพบ ก็ให้เจ้าพ่อเดินทางมาที่กองบรรณาธิการเอง

..เราอยู่ที่ถนนพระอาทิตย์...

ปัจจุบันนี้เจ้าพ่อคนนี้ก็จากโลกนี้ไปแล้วหลังพฤษภาทมิฬ ปี 2535 ก็เพราะเป็นสนธิ เป็นผู้จัดการ เป็นเอเอสทีวี เป็นแบบนี้นี่แหละ อย่างที่พี่น้องรู้จัก! ในช่วงเหตุการณ์พฤษภาทมิฬปี2535 คุณสนธิ ลิ้มทองกุล เอากองบรรณาธิการ เอาหน้าตักธุรกิจทั้งหมดที่มีในประเทศไทย ชนกับรัฐบาลทหารช่วงพฤษภาทมิฬ สู้เคียงข้างกับประชาชนและพลตรี จำลองศรีเมือง คุณสนธิ ต้องออกนอกประเทศเดี๋ยวนั้น..คืนนั้นทันที..ไปให้ไกล..ไปให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีสนธิ ลิ้มทองกุล บนแผ่นดินนี้แน่นอน!

เพราะอำนาจในประเทศขณะนั้นอยู่ในมือของคณะนายทหาร รสช ช่วงพฤษภาทมิฬปี35

ผมเองมีโอกาสไปเรียนเมืองนอกก็เพราะคุณสนธิรับรองฐานะการเงินให้ไปเรียน แถมให้เงินไปเรียนอเมริกาอีกพร้อมกับคุณแม่น้องไมร่า (มณีภัสสร มอลลอย) รุ่นหลานที่กำลังร้องเพลงในสถานีโทรทัศน์ดังของสหรัฐอเมริกา แต่ชีวิตคนรุ่นคุณตาในแผ่นดินมาตุภูมิ ที่สู้กับอำนาจอธรรมมาตลอด กับเจอชะตากรรมอยู่ในเรือนจำ ไม่ต้องบรรยายว่าสภาพในเรือนจำเป็นอย่างไร ที่หลับที่นอนลำบาก ยุงริ้นไรร้องเพลงเป็นเพื่อน ต้องอุทิศเลือดทำบุญให้พวกเขาได้กินเป็นอาหาร อากาศที่จะหายใจกลิ่นอับชื้น สาปสางคนจำนวนมากมีให้รับรู้สูดเต็มปอดทั้งวันทั้งคืน “ผมเข้มแข็งอยู่แล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง ให้พวกน้องๆทำหน้าที่กันไปอย่าได้กังวล” เสียงคุณสนธิลอดผ่านลูกกรงออกมา ดูเหมือนคุณสนธิ ทนเห็นแววตาเปียกชุ่มของผู้มาเยี่ยมไม่ได้ จึงย้ำว่า “ผมเข้มแข็งอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงขอให้น้องๆทำหน้าที่ต่อไป” หนังสือสวดมนต์หนังสือเล่มโปรด ดูเหมือนจะจัดเตรียมไปจากห้องพระ นำไปให้คุณสนธิ ในสถานที่นอนแห่งใหม่ ที่ไหนก็ไม่ได้มีความหมาย ผมแค่เปลี่ยนที่นอน ไปอยู่ในค่ายทหารที่จังหวัดราชบุรีหลังการรัฐประหารของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ถูกประกาศเชิญอันปฏิเสธไม่ได้ให้ไปนอนเฉยๆในค่ายทหาร 6 วัน

ในช่วงยุคสมชาย วงศ์สวัสดิ์ คุณสนธิก็ต้องระวังตัว ช่วงยุคยิ่งลักษณ์และรัฐตำรวจก็ยิ่งระวังตัวหลายเท่า ในช่วงที่คุณ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายก พลเอก ประวิตร วงษ์สุววรณ เป็นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมปี2552 คุณ สนธิ ก็ถูกถล่มยิงด้วยอาวุธสงคราม บริเวณย่านบางลำพูในช่วงที่มีการประกาศภาวะฉุกเฉิน หมอต้องเปิดหนังกระโหลกเอาหัวกระสุนออก มีเศษตะกั่วเล็กๆซึ่งยังฝังอยู่ส่วนลึกใกล้สมองที่หมอไม่กล้าผ่า ตลอดช่วงเกือบ10ปีที่ผ่านในระบอบทักษิณ คุณสนธิบุกเบิกสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี ขายทรัพย์สินแทบทุกอย่างที่ดินน้าปุ๊ (ภรรยา) ขายรูปวาดที่ติดอยู่ที่สำนักงานบ้านพระอาทิตย์เพื่อเอาเงินมาจ่ายลูกน้อง จ่ายค่าน้ำค่าไฟค่าสัญญาณระบบดาวเทียมที่ใช้ออกอากาศ ตลอดเกือบ10 ปีที่สถานีโทรทัศน์แทบไม่มีโฆษณาจากกลุ่มทุนหรือบริษัทห้างร้านขนาดใหญ่ เพราะเกรงกลัวอิทธิพลของระบอบทักษิณจะเล่นงานเขาในฐานะฝักใฝ่สนธิและพันธมิตร ตลอดเกือบ10ปีที่พี่น้องประชาชนคนที่รับชมโทรทัศน์เอเอสทีวี ต่างทยอยเอาข้าวปลาอาหารมาเลี้ยงดูพนักงานของคุณสนธิแทบทุกวัน เพื่อให้พวกเขามีอาหารกินมีข้าวกินมีกำลังใจทำงาน เงินเดือนไม่มีออกไม่เป็นไรมีข้าวกินไปก่อน ประชาชนมาจากต่างจังหวัดทั้งโอนเงิน หาเงินซึ่งก็หาลำบากอยู่แล้วเอามาให้คุณสนธิ เลี้ยงพนักงานให้โทรทัศน์ได้ออกอากาศให้ประชาชนได้รับรู้ข่าวสาร พนักงานคนทำงาน คนขับรถ นักข่าว ช่างภาพ ผู้ประกาศทำไมเขาไม่ทิ้งองค์กรนี้ไปเสีย ไปทำงานที่อื่นที่มั่นคงและปลอดภัยกว่า พนักงานคนทำงาน ที่อยู่กันที่เอเอสทีวี ทุกคนรักและศรัทธาคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ไม่ใช่เพราะเงินค่าจ้างหรือความมั่นคงของชีวิต ในสายตาของคนที่ทำงานในบริษัทใหญ่ ธนาคาร คนที่ทำงานรัฐวิสาหกิจที่มั่นคง เขาก็คงคิดว่าพนักงานเหล่านี้อยู่กันได้อย่างไร...คงโง่กระมังที่ไม่รู้จักเอาตัวรอด... “ที่แน่ๆพนักงานที่ทำงานในเครือผู้จัดการ เขาไม่ได้คิดว่าคุณสนธิเป็นนายจ้าง แต่เขารักและศรัทธาในตัวคุณสนธิที่เสียสละ ทุ่มเทต่อสู้ให้กับชาติบ้านเมือง ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง ทำให้เห็นจนประจักษ์ในศักดิ์ศรีของคนที่ทำสื่อ” คุณสนธิไม่ยอมค้อมหัวให้กับอำนาจที่ชั่วร้าย ยกเว้นก็แต่กับคนดีที่แกจะยกมือไหว้ แม่ของผมเห็นผมทำงานมากับคุณสนธิมานาน..ตั้งแต่จบมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จบมหาวิทยาลัยมาก็ทำงานที่นี่ ไปเรียนเมืองนอกก็เป็นผู้สื่อข่าวให้ผู้จัดการ กลับจากอเมริกาก็อยู่ที่นี่ มีบ้างที่ผู้จัดการลำบากข้าวปลาไม่พอกินช่วงหลังวิกฤติปี40 ก็ต้องระเห็จเร่ร่อนไปอยู่กันที่อื่น เมื่อคุณสนธิสร้างสถานีโทรทัศน์ก็ตามกลับมาอยู่กันที่เอเอสทีวี อยู่ร่วมขบวนต่อสู้กับประชาชนในนามของพันธมิตรในฐานะสถานีที่เป็นปากเสียงของชาวบ้าน ขึ้นโรงขึ้นศาลตลอดหลายปี จนเห็นบัลลังก์ศาลเป็นของคู่กันในวิชาชีพสื่อ ที่มักต้องถูกฟ้องร้องจากผู้เสียประโยชน์ มีคดีความมาเล่าให้คุณสนธิฟังว่า ผู้มีอิทธิพลฟ้องหมิ่นประมาทอีก คุณสนธิรับรู้เหมือนบอกว่า...จบบทเรียนที่สูงขึ้นอีกชั้นแล้วแกร่งขึ้นแล้ว..

ภาพที่เห็นคุณ สนธิ ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพเมื่อสองสามวันที่ผ่านมา เราถามตัวเองว่าพอหรือยัง สำหรับรางวัลของชีวิตของคุณสนธิ พระท่านก็เป็นมาแล้วก็บวชเรียนอยู่ในสำนักวัดป่าบ้านตาด ที่ขัดจิตมนุษย์ให้ประภัสสร ก่อนแผ่นดินกลบหน้า! ลำบากก็สุดๆแล้ว หนี้สินก็มากพอแล้ว อาวุธสงครามลูกปืนคุณสนธิก็ได้มามากพอแล้วยังมีแถมฝังอยู่ที่ใกล้สมองหมอไม่เอาออกให้ คดีความที่เกิดขึ้นในยุคที่ต่อสู้กับระบอบทักษิณ สู้คดีกันอีกร้อยปีก็ไม่จบ ตลอดสองสามวันมานี้แต่ละค่ำคืนกว่าจะผ่านพ้นไปได้มันช่างนานเหลือเกิน ไหว้พระสวดมนต์นึกถึงภาพที่ไปเยี่ยมคุณสนธิที่เรือนจำ

...นี่คือรางวัลชีวิตของเขาในวัยชราหรือ!! ก็ได้แต่ภาวนาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอคุณพระธรรมอันประเสริฐ ให้คุณสนธิ ได้ประกันตัวด้วยเถิด! และพอแล้วขอชาตินี้ชาติเดียว เกิดชาติหน้าผมไม่อยากทำงานกับคุณสนธิอีกแล้ว!

ทำไมเขาถึงมีชีวิตที่ต้องฝ่าฟันอีกไม่รู้สักเท่าไหร่ ..กว่าที่แผ่นดินจะกลบหน้าครับแม่!

ยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที สภากาแฟ-สภาประชาชน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น