++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2557

เมตตา กับ กรุณาเจตสิก

เมตตา คือ ความปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุข ในพระอภิธัมมัตถสังคหะ เรียก เมตตาว่า ธรรม โดยมี องค์ธรรมคือ "อโทสเจตสิก" ส่วน

กรุณาเจตสิก คือ ธรรมชาติที่มีความสงสารต่อทุกข์สัตว์ ไม่ว่ากำลังรับทุกข์ หรือจะได้รับต่อไปข้างหน้า องค์ธรรมคือ "อัปปมัญญาเจตสิก"

ดังนั้น เมตา กับ กรุณาเจตสิก ใกล้เคียงแต่ไม่เหมือนกัน องค์ธรรมก็คนละอย่างกัน

เมตตา ออกไปทางรัก เอ็นดู หน่อยๆ แบบเห็นสาวๆไม่มีตังใช้ ก็ให้ ต่างจาก กรุณา กรุณา ตัวอย่างประมาณว่า ความรักที่แม่มีให้ลูก ใกล้เคียงกันแต่ไม่เหมือนกัน ความจริงมีอีกตัวใกล้กันคือ มุทิตาเจตสิก

มุทิตาเจตสิก คือ ธรรมชาติที่มีความยินดีต่อสัตว์ที่กำลังประสบความสุขอยู่ หรือ จะประสบความสุขในเวลาต่อไป

ทั้ง กรุณาเจตสิก และ มุทิตาเจตสิก ทั้งคู่มีองค์ธรรมอันเดียวกันคือ "อัปปมัญญาเจตสิก"

อรรถ 4 ประการของกรุณาเจตสิก คือ
1.) มีความเป็นไปโดยอาการช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นทุกข์ เป็นลักษณะ
2.) มีความจำกัดทุกข์ของผู้อื่น เป็นกิจ
3.) มีความไม่เบียดเบียน เป็นผล
4.) มีการเห็นสัตว์ผู้ไร้ที่พึ่งถูกทุกข์ครอบงำ เป็นเหตุใกล้

สภาพของกรุณา คือการสงบระงับวิหิงสาเป็นสมบัติ และ มีการเกิดความโศกเป็นวิบัติ เพราะย่อมกระทำจิตใจของคนดีให้หวั่นไหวในเมื่อผู้อื่นมีความทุกข์ เมื่อกรุณาเกิดขึ้นแล้ว ย่อมเข้าถึงความไม่เบียดเบียนผู้อื่น และทำลายความโศกที่เกิดขึ้นกับตนให้หายไป กรุณานี้จึงประกอบได้กับโลกียกุศลจิต

การให้ด้วยความปราถนาดี คือช่วยเหลือให้แล้ว ไม่สนใจว่า เขาจะรับของที่ให้ไป ไปทำอะไร เป็นสิ่งที่ปรากฎอยู่ในหลักธรรม

แต่ถ้าให้แล้วต้องการแลกเปลี่ยน หรือมีข้อแม้ หรือต้องทำประโยชน์อะไรบางอย่างตอบแทน เป็นการให้เหมือนกันแต่เป็นเรื่องทางโลก มีกิเลสวะเข้ามาเจือปน ไม่ใช่ธรรมของฝ่ายกุศล ดูแล้วยุ่งเหยิงนะครับ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น