++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2557

การเจริญสติสำหรับ นักลงทุนที่ลงทุนแล้วขาดทุน แล้วก็ที่มีความทุกข์ จะคิดอย่างไร

บางส่วนจากการวิสัชนาเรื่องธรรมะกับการลงทุน ...สู่เศรษฐีแสนสุข


ปุจฉา: ขอพระคุณเจ้ากรุณาชี้แนะการเจริญสติสำหรับ
นักลงทุนที่ลงทุนแล้วขาดทุน แล้วก็ที่มีความทุกข์ จะคิดอย่างไร
ถึงจะเปลี่ยนความทุกข์นั้นให้เป็นความสุขได้

วิสัชนา: อาตมาก็พอจะตอบได้นะว่า นักลงทุนที่ลงทุนแล้ว
ขาดทุน เพราะมีความรู้ด้านเดียว คือมีความรู้เรื่องการลงทุน
เขาควรจะหาความรู้อีกด้านหนึ่งมาประกอบการลงทุน
คือ ความรู้ทางธรรมะ มนุษย์เรามักมีปัญหา คือมีความรู้
เฉพาะทางมากไป เหมือนไมเคิล แจ๊คสัน ที่มีความรู้ทาง
ดนตรีระดับปริญญาเอก มีชื่อเสียงเป็นอัจฉริยะทางดนตรี
แต่ความรู้ด้านบริหารจัดการชีวิตแค่ปริญญาตรี วันหนึ่งเขา
เปิดห้องอัดเองเขาก็ขาดทุนเป็นพันล้าน เพราะเขามีความรู้
เพียงด้านเดียว ฉะนั้นเราทุกคนจะต้องเป็นคนที่พระพุทธองค์
ทรงใช้คำว่า “ต้องมีตา 2 ข้าง” หนึ่ง คือ ตาข้างนอก สอง
คือ ตาข้างใน ตาข้างนอกนี้ก็คือสำหรับทำมาหากิน สำหรับ
นักลงทุน แต่ตาข้างในคือ ตาธรรมะ คำแนะนำคือ นักลงทุน
ต้องเรียนธรรมะควบคู่กันไปด้วย คุณจะต้องรู้ว่าโลกนี้จะ
ไม่มีใครได้ทุกอย่างดังใจหวัง และจะไม่มีใครพลาดหวังทุก
อย่างไป นี่เป็นสัจธรรมพื้นฐานที่เราต้องเข้าใจ ถ้าเราเข้าใจ
แบบนี้ พอเรามาลงทุน การลงทุนก็มีกำไร และมีขาดทุน
วันหนึ่งถ้าเรามีกำไร เราก็รู้จากคำพระที่ว่า กำไรมันจะมา
วันหนึ่งถ้าขาดทุน เราก็รู้ว่านี่ไงที่พระท่านพูด ฉันกำลัง
มีประสบการณ์ตรง พอเรามีความเข้าใจพื้นฐานร่วมกัน
อย่างนี้แล้ว พอเราขาดทุนเราก็ไม่ตีโพยตีพาย เพราะชีวิตก็
เป็นอย่างนี้ มีได้มีเสีย มีขึ้นมีลง มีสูงมีต่ำภาษาพระเรียก
หลักธรรมชุดนี้ว่า “โลกธรรม” แปลว่าธรรมประจำโลก
ถ้าเราเข้าใจโลกธรรม คือธรรมประจำโลกแบบนี้นะ ว่าโลกนี้
มีสูงมีต่ำมีได้มีเสีย มีสุขมีทุกข์ เป็นธรรมดาประจำโลก
โลกธรรมนี้จะทำอะไรเราไม่ได้เลย ถ้ามันเกิดขึ้น เราก็รู้ว่า
พระท่านบอกไว้แล้ว แต่ถ้าเราไม่เข้าใจโลกธรรมชุดนี้ พอเกิด
เหตุการณ์ที่ลงทุนแล้วขาดทุนเป็นทุกข์ เราจะถูก “โลกกระทำ”
ถ้าโลกกระทำไปแล้ว ยังไม่ยอมทำความเข้าใจอีก ยังทุกข์ซ้ำ
ทุกข์ซากอีก ก็จะถูกโลกกระทืบ เพราะฉะนั้นขอแนะนำให้
หาความรู้ทั้งทางการลงทุนและทางธรรมะคู่กันจะได้เอาไว้
ปลอบใจตัวเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น