++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

"ตาย" กับคำว่า"ไม่ตาย"

ในคำโบราณที่พูดไว้ว่า : "นิพพานนั้นคือตายเสียก่อนตาย,

หรือ

ตายเสียก่อนแต่ร่างกายตาย"...

นี้อะไรตาย??

ก็คือ กิเลสที่เป็นเหตุให้รู้สึกว่ามีตัวกู-ของกูนั่นแหละตาย

กิเลสนี้ต้องตายเสร็จก่อนร่างกายตาย

จึงจะเรียกว่านิพพาน

นี่เป็นสิ่งที่ควรจดจำไว้ด้วยว่า


"ดีอยู่ที่ละ พระอยู่ที่จริง

นิพพานอยู่ที่ตายเสียก่อนตาย". ;


เพียงเท่านี้ก็จะทำให้เห็นว่า มีการพูดที่สับสน

คราวหนึ่งคนหนึ่งสอนว่า ให้ตายเสียก่อนตาย,

คราวหนึ่งนี้มีผู้ที่สอน ว่าจงทำให้ไม่รู้จักตาย

ที่แท้มันเป็นคำพูดที่ถูกด้วยกันทั้งนั้น

เพราะมีความหมายมุ่งไปอย่างหนึ่งๆ :

รวมความแล้วคือ ดับตัวกู - ของกูเสียได้

ไม่มีความยึดมั่นตัวกู - ของกูเหลืออยู่

นั่นแหละคือใจความของการปฏิบัติ


ดับเสียได้คือตาย ฆ่าตัวกู ทำลายตัวกู ให้หมดเสีย

อย่างนี้เรียกว่าทำให้มันตายไปเสีย


ทีนี้ ไม่ตายก็หมายความว่าตัวกู - ของกูไม่มีแล้ว

ก็เหลืออยู่แต่

ธรรมะที่บริสุทธิ์ ธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ที่ไม่รู้จักตายคือนิพพาน,

คือธรรมชาติที่ไม่รู้จักตาย;

เข้าใจเสียให้ดีจะได้ไม่มีอะไรกีดขวางกัน


พูดว่า...

จงตายเสียให้เสร็จสิ้นในตัวเสียแต่ทีแรก,

ก็หมายความว่า :

อย่ามีความรู้สึกว่าตัวกู - ของกูมาเสียแต่ทีแรก

ให้ตลอดเวลาไปเลย...

นี้เรียกว่าตัวกู - ของกูมันตาย ไม่มีส่วนเหลือ

ตั้งแต่ทีแรกหรือตลอดเวลา


ถ้าตัวกู - ของกูมันตายเสียแล้วตั้งแต่ทีแรก

ก็เหลืออยู่แต่ธรรมชาติที่บริสุทธิ์...

ปรากฏออกมาแก่ความรู้สึกเป็นธรรมชาติที่ไม่รู้จักตาย:

เพราะมันไม่มีตัวกู - ของกู

มันจึงไม่รู้จักเกิด ไม่รู้จักแก่ ไม่รู้จักเจ็บไม่รู้จักตาย :

เพราะว่าความเกิด ความแก่ ความเจ็บ ความตาย อะไรเหล่านี้

มันอยู่ที่ตัวกู - ของกูทั้งนั้น

จริงอยู่ที่สังขาร ที่เข้าไปยึดมั่นถือมั่นว่า

ตัวกู และตัวกูเกิด แก่ เจ็บ ตาย;


ทีนี้ถ้าเราไม่ยึดถือว่าสังขารว่าเป็นตัวกู - ของกู

มันก็เป็นการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ,

ไม่เรียกว่าเกิด แก่ เจ็บ ตาย ;

เพราะว่าเอาความหมายคำว่าตัวกู - ของกูออกไปเสีย ไม่มีเหลืออยู่

ความเกิด แก่ เจ็บ ตายก็สูญเสียความหมายไปด้วย

เรียกว่าไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย

นี่มันผลัดกันพูดคนละทีหรือคนละแนวอย่างนี้


ระวังอย่าให้สับสนสำหรับคำพูดเพียงคำเดียวว่า

"ตาย" กับคำว่า"ไม่ตาย"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น