++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ตอบข้อสงสัยเรื่องการล้างพิษตับ ล้างไปทำไม ทำไมต้องล้าง โดย รศ.นพ.สำเริง รัตนระพี

ตอบข้อสงสัยเรื่องการล้างพิษตับ ล้างไปทำไม ทำไมต้องล้าง โดย รศ.นพ.สำเริง รัตนระพี อาจารย์แพทย์ศิริราช บางคนพยายามต่อต้านด้วยการไปถามแพทย์แผนปัจจุบันบางท่าน ที่ไม่เคยมีความรู้เรื่องการล้างพิษตับมาก่อนเลย แพทย์ท่านก็ตอบแบบไม่มีประสบการณ์โดยใช้พื้นฐานความเป็นแพทย์แผนปัจจุบันมาตอบ ทำให้เกิดความเข้าใจผิดกับการล้างพิษตับ ซึ่งความจริงแล้วมีที่มาจากโลกตะวันตก ไม่ใช่ภูมิปัญญาไทยหรือเอเชีย

การกินน้ำมันมะกอกผสมผลไม้ตระกูลส้มเพื่อรักษาโรคนิ่วในถุงน้ำดี-ในตับ มีมาแต่สมัยโบราณ ในตำราอายุรเวทของอินเดียก็มีบันทึกไว้ นานกว่า 5,000 ปี ในจีนยุคโบราณก็มี ยุคโรมัน ตั้งแต่ 510 ปีก่อนคริสต์กาล หรือมากกว่า 2500 ปีมาแล้ว ยุคปัจจุบันชาวเยอรมันนำมาเผยแพร่ใหม่เมื่อกว่า 30 ปีที่แล้ว ชาวเอเซียทำตามยุโรป

ในไทย มีคนไทยคือ อ.แก่นฟ้า แสนเมือง (อาชีพเดิมเป็นวิศวกร) และ อ.ขวัญดิน สิงห์คำ ท่านทั้งสองเป็นชาวสันติอโศก ได้ทราบข่าวเรื่องนี้จึงศึกษา ทดลองทำกับตัวเองและผู้อื่นที่ ศีรษะอโศก จ.ศรีสะเกษ จนกระทั่งนำมาบุกเบิกในไทย และปรับปรุงพัฒนาสูตรจากการดูงานในต่างประเทศ อาทิ มาเลเซีย ไต้หวัน ที่มีการล้างพิษตับด้วยวิถีธรรมชาติ นำมาผสมผสานกับสมุนไพรและภูมิปัญญาไทยจนที่เป็นแพร่หลายในไทย ปัจจุบันมีผู้เปิดคอร์สล้างพิษตับหลายแห่ง และมีคนไทยผ่านการล้างพิษตับไปแล้วมากกว่า 30,000 คน (ข้อมูล กพ.2556 ยังไม่มีตัวเลขหลัง กพ.2556 – กพ.2557)

ทั้งนี้ อ.แก่นฟ้า ผู้ทดลองกับตัวเองมานาน เล่าว่าผู้คนในปัจจุบันกินอาหารไม่เหมือนคนโบราณ ทำให้มีตะกรันในลำไส้หรืออุจจาระตกค้าง จึงไม่สามารถกินน้ำมันมะกอก+น้ำผลไม้ตระกูลส้มได้เลยทันที ต้องทำการล้างลำไส้ก่อน จึงได้ทำเป็นหลักสูตรที่เดิมใช้เวลา 9 วัน และภายหลังลดเป็น 7 วัน 6 วัน 5 วัน 4 วัน และ 3 วัน ตามลำดับ โดยการล้างพิษตับแบบ 3 วัน ทำให้คนส่วนใหญ่ได้ล้างพิษง่ายขึ้น และร่างกายไม่เพลีย ตับไม่ออกแรงมากจนเกินไป

วันนี้ ชีวอโรคยา ได้นำส่วนหนึ่งของบทความจาก รศ.นพ.สำเริง รัตนระพี อาจารย์แพทย์ศิริราช ผู้ที่เคยล้างพิษตับด้วยตนเองมาแล้วหลายครั้ง ท่านได้ผนวกประสบการณ์ความเป็นแพทย์แผนปัจจุบันมากรุณาเขียนอธิบายให้เข้าใจได้ง่ายๆ สั้นๆ เราจึงขอนำมาแบ่งปันให้อ่านเพื่อให้ทราบมุมมองของ “อาจารย์แพทย์” กับ “ข้อสงสัยว่าทำไมต้องล้างพิษตับ” ดังนี้คือ...
*************
ทำไมต้องล้าง (พิษ) ตับ
ตับของเรามีอายุเท่ากับเรา เราอายุ 50 ปี ตับของเราก็อายุ 50 ปี เราอายุ 60 ปี ตับของเราก็อายุ 60 ปี เช่นเดียวกัน

ตับเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดของร่างกาย มีน้ำหนักประมาณ 2% เช่น เราหนัก 60 ก.ก. ตับของเราจะหนักประมาณ 1,200 กรัม

ตับมีหน้าที่สำคัญมากกว่า 500 อย่าง ที่เรารู้กันเป็นอย่างดีก็คือหน้าที่กำจัดสารพิษต่างๆ อาหารทุกคำ ยาทุกเม็ด ที่เรากินล้วนมีสิ่งที่ตับต้องกำจัดทั้งสิ้น

ตับเป็นต่อมมีท่อใหญ่ที่สุด สิ่งที่ตับสร้างคือ น้ำดี (bile) เซลล์ตับปกติทุกเซลล์จะสร้างน้ำดี (bile) น้ำดีที่สร้างจะไหลไปตามท่อเล็กๆ ซึ่งมองด้วย กล้องจุลทรรศน์ธรรมดาไม่เห็น เรียกว่า “bile canaliculi” แล้วรวมกันถึงท่อน้ำดีที่ ใหญ่ขึ้นในตับ เรียก “bile duct” ตับมี 2 กลีบ (lobes) ท่อน้ำดีจากทั้ง 2 กลีบ จะรวมตัวกันเป็น “hepatic duct” จะไปเชื่อมต่อกับท่อน้ำดีที่ไหลไปยังถุงน้ำดี (gallbladder)

ตับปกติของผู้ใหญ่จะสร้างน้ำดีวันละหลายลิตร ส่วนใหญ่จะไหลเข้าสู่ลำไส้เล็ก ส่วนที่ 2 ของลำไส้เล็กช่วงแรก (second part of duodenum) มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่จะไปเก็บไว้ที่ถุงน้ำดี (ไม่เกิน 100 cc)

เมื่อตับกำจัดพิษจากสิ่งที่เรากินเข้าไป กากหรือขยะของสารพิษจะถูกขับออกจากตับได้ 2 วิธี

1.ถ้าเป็นสารละลายน้ำได้จะถูกกำจัดออกทางไต

2.ถ้าเป็นสารที่ไม่ละลายในน้ำ ตับจะอาศัยน้ำดีนำไปทิ้งที่ลำไส้เล็กกลายเป็น อุจจาระต่อไป และขยะที่กำจัดไม่ได้จะสะสมอยู่ในตับ

ตับทำงานตลอดเวลา และเป็นอวัยวะหนึ่งซึ่งไม่เคยพักเลย (เช่นเดียวกับ หัวใจ และปอด)

ตับเป็นทั้งโรงงานผลิต โรงกำจัดพิษ และโกดังสะสมทั้งสิ่งที่เป็นและไม่เป็นประโยชน์ ต่อร่างกาย เช่น ไขมัน

เครื่องยนต์ของรถ เรือ หรือพาหนะใดๆ ต้องการการทำความสะอาดทั้งสิ้น ตับก็ต้องการเช่นกัน

ตับที่สะอาดจะทำงานได้ดีขึ้นกว่าตับที่สะสมกากขยะไว้ทั้งในตับเอง และในถุงน้ำดี

อ่านถึงจุดนี้ พวกเราคงไม่สงสัยว่า การล้าง(พิษ)ตับ น่าจะเป็นประโยชน์นะ

หลักการ และเหตุผล
การที่ตับต้องทำงานตลอดเวลาเพราะเรากิน
ถ้าเราหยุดกิน ตับก็จะได้พัก ระบบย่อยอาหารทั้งหมดก็จะได้พักด้วย
สังเกตไหมว่าเวลาเราป่วย ความอยากอาหารจะหมดไป ร่างกายเราบอกว่าขอหยุดทำงานก่อน หลักการนี้สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในวิธีล้าง(พิษ)ตับได้

ตับที่พักการทำงานไประยะหนึ่งเมื่อถูกกระตุ้น จะสร้างน้ำดี (ซึ่งหยุดทำไประยะหนึ่งแล้ว) อย่างมากมาย น้ำดีที่ตับสร้างขึ้นนี้มีปริมาณมาก และสามารถนำสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาจากระบบท่อน้ำดี และถุงน้ำดี ออกมาทางอุจจาระได้อย่างไม่น่าเชื่อ ตัวกระตุ้นปฏิกิริยานี้ได้รับการพิสูจน์จากนานาประเทศที่เรียนรู้วิธีนี้มานานแล้ว ก็คือ “น้ำมันมะกอก” ชนิด extra vergin olive oil
******* *******

ถามที่ช่องคอมเม้นท์แอดมินอาจไม่เห็น ถามอีก 4 ทางดีกว่าค่ะ !!!
* หมายเหตุ: แอดมินอาจไม่เห็นคอมเม้นท์นะคะ สนใจสอบถาม หรือจะเข้าร่วมกิจกรรม โปรดอ่านที่คำบรรยาย คลิกตามไปอ่านข้อมูลที่ภาพแรกหน้าเฟซบุ๊ก ชีวอโรคยาได้เลยนะคะ

www.facebook.com/pages/ชีวอโรคยา/135957369811772

มีครบทุกอย่างที่ควรทราบและต้องทราบค่ะ อ่านรายละเอียดแล้วหากสนใจร่วมกิจกรรม สามารถสอบถามราคา-บัญชีโอนเงินเพื่อจองคอร์สร่วมกิจกรรมติดต่อเราได้ 4 ทาง คือ
- สอบถามได้ทางช่องข้อความ (Message)
- ฝากอีเมล์ของท่านเพื่อไว้ในข้อความ (Message)
- อีเมล์หาเราที่ Chivaarokhaya@hotmail.com
- อ่านรายละเอียดจบแล้ว โทรถามราคา-บัญชีโอนเงิน
ได้ที่ 09 0808 0316 รับสาย 09.00-19.00 น.

!!!อย่าฝากอีเมล์ให้ในช่องคอมเม้นท์!!! เนื่องจากจะมีผู้ขโมยอีเมล์ของคุณไปสร้างความรำคาญให้คุณค่ะ

โปรดอ่านศึกษาข้อมูลก่อนโทรมาสอบถามราคาจะดีมากเลยค่ะ เพื่อทราบว่าคุณมีคุณสมบัติเข้าคอร์สได้ไหม และทราบรายละเอียดต่างๆ เนื่องจากรายละเอียดมาก อาจไม่มีเวลาอธิบายได้ครบหมด

******* *******
ชีวอโรคยา แบ่งปันความรู้ทั่วไป เพื่อเป็นวิทยาทาน เพื่อความพอเพียง เพื่อสุขภาพที่ดี โปรดใช้วิจารณญาณ และศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมด้วยตนเอง ไม่รับปรึกษาปัญหาสุขภาพ เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญไม่ได้ประจำหน้าเพจ

เครดิต: เรื่อง ชีวอโรคยา เรียบเรียงขึ้นมาใหม่จาก ส่วนหนึ่งของบทความจาก รศ.นพ.สำเริง รัตนระพี อาจารย์แพทย์ศิริราช ได้เขียนบทความนี้ส่งมาเผยแพร่ใน www.manager.co.th และส่วนหนึ่งของข้อมูลจาก อ.แก่นฟ้า แสนเมือง ผู้ร่วมบุกเบิกการล้างพิษตับในไทย
อ้างอิง: โปรไฟล์ รศ.นพ.สำเริง รัตนระพี www.si.mahidol.ac.th/th/person_detail.asp?ps_id=651

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น