++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอาทิตย์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2558

ประเทศไทย ณ วันที่ 4 มกราคม 2558

Dr-Jidbhong Jayavasu
ข้อสรุปของผม ณ ปีใหม่ 4 มกราคม 2558
1. ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศพอใจที่ทหารปฏิวัติเพื่อหยุดความรุนแรงทางการเมืองที่อาจเกิดการนองเลือดขึ้น และรู้สึกขอบคุณทหาร
2. ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศอีกเช่นกัน ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วคสช.ทำการปฏิวัติเพื่อใครและเพื่อหวังผลสิ่งใดกันแน่ เพราะนอกจากเหตุผลข้อ 1 ข้างต้นแล้ว การปฏิบัติของคสช.ทั้งหมดตั้งแต่ปฏิวัติมาจนถึงปีใหม่นี้ยังดูไม่ออกว่า นอกจากหยุดความรุนแรงและไล่นักการเมืองอาชีพออกไปตกงานหมดแล้ว ประชาชนจะได้อะไรจากการปฏิวัติครั้งนี้
3. การปฏิบัติหลายประการที่คสช.เร่งกระทำจนดูเหมือนลุกลี้ลุกลน เช่นการเร่งไปเจรจากับผู้นำเขมร แทนที่จะสงวนท่าทีเพื่อรักษาอธิปไตยของชาติ และเร่งแก้ไขปัญหาข้อกฎหมายระหว่างประเทศโดยการยกเลิกสนธิสัญญาที่ทำให้ไทยเสียเปรียบ การเร่งโครงการเมกะโปรเจ็คต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟกับจีน ป้องกันน้ำท่วมกับเกาหลี ฯลฯ อันเป็นเรื่องที่มีปัญหาในสภาเก่ามาก่อน และเป็นที่ครหาของประชาชนส่วนใหญ่ คสช.กลับเร่งทำ...ทำให้งง
4. การทุจริตคอรัปชั่นและประพฤติมิชอบของรัฐบาลที่ผ่านมา คสช.กลับอ้างความเป็นธรรม โยนเรื่องให้กระบวนการยุติธรรม ทั้งๆที่รู้ว่าเรื่องนี้คือสาเหตุใหญ่ที่สร้างความไม่พอใจให้คนทั้งประเทศ จนเกิดการประท้วงและลุกลามบานปลายมาจนเกือบจะเกิดการนองเลือด และคสช.ต้องออกมาปฏิวัติ ไม่ยอมใช้อำนาจในมือจัดการกับบุคคลที่เป็นต้นเหตุ แต่กลับไปบี้บดกดดันกับกลุ่มคนดีๆที่ออกมาประท้วงการทุจริตเหล่านั้น ปล่อยให้เรื่องราวการทุจริตต่างๆถูกแช่เย็นอยู่ในมือของกระบวนการยุติธรรมที่ไม่อาจเอื้อมไปสาวถึงต้นตอได้ดังเดิม ทั้งคนทำผิดก็ยังเชิดหน้าอยู่ได้ในสังคม
5. กระแสต่อต้านการปฏิวัติและคสช. เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยถูกนำไปเชื่อมโยงกับกระบวนการโค่นล้มสถาบัน คลิปวีดิโอที่ออกมาจากต่างประเทศก็ถูกผลิตออกมาอย่างโจ่งแจ้งและท้าทาย ยังไม่เห็นมีการจัดการอย่างใด แต่ความเห็นและความในใจของประชาชนผู้หวังดีที่ถูกระบายออกมาในโซเชียลมีเดียกลับถูกคุกคามอย่างหนัก
6. เศรษฐกิจของประเทศกำลังย่ำแย่ เพราะการค้าหลักๆในประเทศถูกนายทุนใหญ่ครอบงำอยู่เพียงสองสามตระกูล ประชาชนชนชั้นกลางและชั้นล่างกำลังถูกบีบคั้นให้เป็นคนจนหมดทั้งประเทศเพราะหมดทางทำมาหากิน คสช.ไม่เคยพูดถึง และคนสองสามตระกูลนั้นก็ไม่เคยแยแส ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศไม่เข้าใจความหมายของคำว่า "คืนความสุขให้ประชาชน" ของคสช.
7. ปัญหาเรื่องน้ำมัน นอกจากคสช.จะไม่แก้ไขแล้ว ยังปล่อยให้เรื่องดำเนินคุกคามประชาชนต่อไปอีก ด้วยการให้สัมปทานรอบใหม่ และกำลังนำศึกเข้าบ้านด้วยการเร่งการขุดเจาะทางภาคพื้นดิน ซึ่งก่อให้เกิดปฏิกิริยาต่อต้านจากชาวบ้านที่ถูกรุกล้ำที่ทำกินและที่อยู่อาศัยอย่างกว้างขวาง จึงยิ่งเร่งเพิ่มกระแสการต่อต้านคสช.เพิ่มมากขึ้น
8. ในด้านการเมือง ขณะที่สภาทั้งสองที่คสช.ตั้งขึ้น(โดยมีอำนาจกฎอัยการศึกอยู่ในมือ) คือสปช.และสภาร่างรัฐธรรมนูญ กำลังเร่งทำงานเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนให้มีการเลือกตั้งทั่วไป(ซึ่งจะเป็นเมื่อไรไม่ทราบนั้น) ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศต่างกำลังงงอยู่ว่า ระบอบการปกครองของประเทศนั้นจริงๆแล้ว คสช.หรือใครเป็นผู้กำหนด? สภาที่คสช.ตั้งขึ้นเช่นนั้นหรือ? และจะออกมาอย่างไรประชาชนก็ต้องยอมรับใช่หรือไม่? ขณะที่ประชาชนจำนวนหนึ่งตั้งข้อรังเกียจไม่ยอมรับอยู่แล้วคสช.จะทำอย่างไร? ก่อนหรือระหว่างการเลือกตั้งครั้งใหม่จะเกิดการประท้วงอย่างรุนแรงกันอีกหรือไม่? แล้วก็จะต้องมีการปฏิวัติยึดอำนาจกันอีก?
9. ประชาชนระดับรากหญ้าในต่างจังหวัด ไม่ใช่คนล้าสมัย ไม่ใช่คนโง่ ไม่ใช่คนหูป่าตาเถื่อน เทคโนโลยีการสื่อสารและโซเชียลมีเดีย ได้ติดอาวุธทางปัญญาให้เขาหมดแล้ว พวกเขาไม่ใช่คนไร้เดียงสาที่เคยถูกข้าราชการต้มตุ๋นและข่มขู่ได้อีกแล้ว แต่ในอีกด้านหนึ่ง สังคมของคนเหล่านั้นก็มีการ"จัดตั้ง"เป็นรูปธรรม ผู้นำชุมชนระดับนั้นไม่ใช่ไร้ปัญญา หากฟังเขาพูดจาแล้วจะรู้ว่าหลายคนมีสติ มีปัญญา รู้ปัญหาดีกว่าคนบางคนในคณะรัฐบาลที่คสช.ตั้งขึ้นมาด้วยซ้ำ
ผมสรุปได้แค่นี้ ผมพูดได้แค่นี้ และทำได้แค่นี้ เรื่องต่อไปอยู่ที่อนาคตของคสช.ว่าจะเอายังไงกับประเทศชาติ ถึงแม้บางอย่างจะบอกไม่ได้ แต่ก็อย่าให้สิ่งที่คุณระงับมันกลับมาเกิดขึ้นอีกก็แล้วกัน เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วประชาชนจะล้มตายกันเป็นเบือ แล้วพวกคุณนั่นแหละจะอยู่ไม่ได้ เร่งทดแทนบุญคุณให้แผ่นดินด้วยการทำกรรมดีเถิด กรรมชั่วที่คนอื่นเขาทำอย่าไปทำตามเขา และช่วยเร่งปราบคนชั่วให้หมดไปไวๆด้วย เท่านั้นแหละ
ขอบคุณครับ"""เจี๋ยโป๋"""

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น