++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอังคารที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2558

อย่าลืมตามหาตัวเองให้พบ... (เรื่องน่าอ่าน)

พบเมื่อใด สุขใจเมื่อนั้น
ซารูเด็กชายวัย ๕ ขวบพลัดหลงกับพี่ชายในคืนวันหนึ่ง คืนนั้นเขานั่งรถไฟมากับพี่ชาย เมื่อลงจากรถไฟเด็กน้อยเหนื่อยมาก เขาผลอยหลับไปขณะที่พี่ชายออกไปหาของกิน เมื่อตื่นขึ้นมาเขาหาพี่ชายไม่พบ ด้วยความตกใจเด็กน้อยกระโดดขึ้นรถไฟที่จอดอยู่ข้างหน้าแล้วหลับต่อมารู้ตัวอีกทีเขาก็ถึงปลายทางคือกัลกัตตา
ซารูกลายเป็นเด็กเร่ร่อนแถวสถานีรถไฟ คุ้ยหาอาหารตามถังขยะและพื้นดิน จนมีคนมาพบและส่งเขาไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า มีการลงประกาศหาพ่อแม่ของเขาตามหน้าหนังสือพิมพ์ แต่ไร้ผล โชคดีที่มีคนรับเขาเป็นบุตรบุญธรรมที่ออสเตรเลีย นับแต่นั้นชีวิตเขาก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ
ตั้งแต่เด็กจนหนุ่มเขาคิดถึงบ้านเกิดอยู่เสมอ แต่เขาจำอะไรแทบไม่ได้เลย รวมทั้งชื่อพ่อแม่และนามสกุลดั้งเดิมของตัว จำได้แต่สถานีรถไฟใกล้บ้านเกิดว่ามีหอเก็บน้ำ สะพาน และแม่น้ำอยู่แถวนั้น การหาบ้านเกิดจึงแทบไม่ต่างจากการหาเข็มในกองฟาง
โชคดีที่ไม่กีปีมานี้มี Google Earth เกิดขึ้น เขาอาศัยโปรแกรมนี้ตามหาบ้านเกิดทางคอมพิวเตอร์ โดยเริ่มต้นที่สถานีกัลกัตตาแล้วไล่ตามเส้นทางรถไฟย้อนขึ้นไป เขาหมกมุ่นอยู่กับภาพถ่ายดาวเทียมภาพแล้วภาพเล่านานหลายปีจนในที่สุดก็ค้นพบสถานีหนึ่งซึ่งคล้ายภาพในความทรงจำของเขา
แล้วเขาก็เดินทางไปกัลกัตตา นั่งรถไฟไปลงที่สถานีดังกล่าว แม้พูดภาษาฮินดีไม่ได้เลย แต่เมื่อยื่นภาพถ่ายวัย ๕ ขวบของเขาจากพาสปอร์ตเมื่อ ๒๕ ปีก่อน คนแถวนั้นก็จำได้ และพาเขาไปพบแม่ ทั้งสองคนตื่นเต้นดีใจมาก กอดกันตัวกลม รู้สึกเหมือนฝันเพราะไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้ได้
เทคโนโลยียุคใหม่ทำให้การตามหาบ้านเกิด พ่อแม่ ลูกหลาน หรือเพื่อนที่พลัดพรากจากกันหลายสิบปี กลายเป็นสิ่งที่ง่ายดาย บางคนแค่ประกาศหาทางเฟซบุ๊คไม่กี่วันก็ประสบความสำเร็จ ดังหนุ่มชาวอังกฤษที่สามารถตามหาสามีภรรยาชาวไทยที่เคยช่วยเขาในเหตุการณ์สึนามิ โดยไม่ต้องเดินทางมาที่ภูเก็ตด้วยตนเอง
สมัยนี้จะตามหาใครไม่ใช่เรื่องยากแล้ว แต่ที่ยังยากอยู่หรือยากกว่าเดิมก็คือ การตามหาตนเอง ผู้คนเป็นอันมากแก่ชราแล้วก็ยังตามหาตนเองไม่พบ ไม่รู้ว่าตนเองเป็นใคร อยู่เพื่ออะไร และต้องการอะไรอย่างแท้จริง
ออรังเซ็บ กษัตริย์อินเดียราชวงศ์โมกุล ซึ่งยึดอำนาจจากบิดาคือชาห์ชะฮาน ผู้สร้างทัชมาฮาล ตลอดทั้งชีวิตทำสงครามขยายอาณาจักรจนดินแดนแผ่ไพศาล ครอบครองประชากรเกือบ ๑ ใน ๔ ของโลก และได้ชื่อว่าเป็นกษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แต่เมื่อใกล้ตายเขารำพึงด้วยความรันทดว่า “ฉันมาแล้วก็ไปอย่างคนแปลกหน้า ฉันไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร และกำลังทำอะไรอยู่”
มาร์คอส ซึ่งเคยเป็นประธานาธิบดีที่เรืองอำนาจของฟิลิปปินส์ เคยบันทึกด้วยความรู้สึกคล้าย ๆ กันว่า “ผมมีอำนาจมากที่สุดในฟิลิปปินส์ ผมมีทุกอย่างที่เคยใฝ่ฝัน พูดให้ถูกต้องคือ ผมมีทรัพย์สมบัติทุกอย่างเท่าที่ชีวิตต้องการ มีภรรยา ซึ่งเป็นที่รักและมีส่วนร่วมในทุกอย่างที่ผมทำ มีลูก ๆ ที่ฉลาดหลักแหลม และสืบทอดวงศ์ตระกูล มีชีวิตที่สุขสบาย ผมมีทุกอย่าง แต่กระนั้นผมก็ยังรู้สึกไม่พึงพอใจในชีวิต”
แม้ในยามที่รุ่งเรืองถึงขีดสุด คนจำนวนไม่น้อยก็ยังไม่รู้ว่าตนต้องการอะไรอย่างแท้จริง ที่แน่ ๆ ก็คือ อำนาจและทรัพย์สมบัติที่มีมากมายนั้น หาใช่สิ่งที่ตนเองกำลังแสวงหาไม่ ถ้าเช่นนั้นมันคืออะไร หลายคนตายแล้วก็ยังไม่พบ จึงอยู่อย่างไร้สุข
จะตามหาใครหรืออะไรก็แล้วแต่ อย่าลืมตามหาตนเองให้พบด้วย มันไม่ช่วยให้อิ่มท้องหรือหายหิวก็จริง แต่ก็ทำให้ชีวิตนี้มีความหมายและอยู่อย่างอิ่มเอมเต็มเปี่ยม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น