++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2558

@ เครื่องสำอางอันตรายกับหน้าขาว

@ เครื่องสำอางอันตรายกับหน้าขาว
เมื่อกล่าวถึงการฟอกหน้าขาว ก็ไม่ลืมที่จะเตือนผู้บริโภคถึงอันตรายของผลิตภัณฑ์ที่มีองค์ประกอบของสารต้องห้าม เช่น ปรอท ไฮโดรควิโนน (hydroquinone) และสารสเตียรอยด์ สารต้องห้ามเหล่านี้ยังพบในผลิตภัณฑ์หน้าขาวที่แอบวางจำหน่ายทั่วไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งตามชานเมือง สังเกตุได้ง่ายเมื่อทาครีมเหล่านี้ลงบนใบหน้าเพียง 1-2 สัปดาห์ ผิวหน้าจะผ่อง สิวฝ้าจะจางลงอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะ หน้าจะเริ่มไหม้ดำและค่อยๆแผ่วงกว้างขึ้น ควรรีบหยุดใช้และไปปรึกษาแพทย์ผิวหนัง
สารต้องห้ามและเป็นอันตรายทำให้หน้าเสียโฉม ที่ตรวจพบในเครื่องสำอางต้องห้าม ผิดกฏหมาย ที่ อย.สุ่มตรวจพบ
1สารไฮโดรควิโนน มีคุณสมบัติในการฟอกสีผิว (Skin bleaching agent) เป็นสารที่เคยอนุญาต ให้ใช้ในครีมแก้ฝ้า แต่ภายหลังพบว่า สารไฮโดรควิโนน ทำให้เกิดการระคายเคือง และจุดด่างขาวที่หน้าผิวหน้าดำ เป็นฝ้าถาวรรักษาไม่หาย (ochronosis หรือ defiguring effect) นอกจากนี้พบว่า สารไฮโดรควิโนน มีความเป็นพิษ โดย พบว่ามีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ และก่อมะเร็งในหนู สารไฮโดรควิโนน ถูกกำหนดเป็นสารห้ามใช้ในผลิตภัณฑ์สำหรับใบหน้า ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 ตาม พระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2535
*** บทความ "อันตรายของครีมหน้าขาว ที่ผสมไฮโดรควิโนน :
http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/…/อันตรายของครีมหน้าขาวที…"
2กรดเรทิโนอิก (retinoic acid) เป็นสารที่ช่วยให้เกิดการแบ่งตัวของเซลล์ผิวหนัง และหลุดลอก ได้ (peecling agent) จึงช่วยให้สิวเสี้ยนและผิวหนังที่หยาบกร้านหลุดลอกออกง่าย ขึ้นทำให้ผิวผ่องใสและนุ่มเนียน โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับ สารไฮโดรควิโนน จะช่วยให้ สารไฮโดรควิโนน ซึมเข้าสู่ผิวหนังและออกฤทธิ์ได้มากกว่าปกติ ความเป็นพิษ คือ ทำให้หน้าแดง และแสบร้อนรุนแรง เกิดการระคายเคือง อักเสบ แพ้แสงแดดหรือแสงไฟได้ง่าย เป็นอันตรายต่อทารก ในครรภ์ กรด เรทิโนอิก ถูกกำหนดเป็นสารห้ามใช้ในเครื่องสำอาง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2532 และเป็นสารห้ามใช้ลำดับที่ 375 ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดวัตถุที่ห้ามใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตเครื่องสำอาง ตามที่ปรากฏใน ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 125 ตอนพิเศษ 80 ง ลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2551
3ปรอทแอมโมเนีย ออกฤทธิ์รบกวนการทำงานของเอนไซม์ tyrosinase ทำให้ ลดการสร้างเม็ดสีผิว เมลานิน จึงช่วยให้ผิวขาวขึ้น ปรอทแอมโมเนีย มี ฤทธิ์ฆ่า เชื้อแบคทีเรีย ชนิด staphylococcus จึงป้องกันสิวได้ด้วย ปรอทแอมโมเนียสามารถทำลายไต ระบบประสาท เยื่อบุและทางเดินหายใจ การใช้ปรอทแอมโมเนียติดต่อกัน เป็นเวลานานจะทำให้เกิดพิษสะสมของสารปรอทในผิวหนัง และดูดซึมเข้าสู่กระแส โลหิต ทำให้ตับและไตอักเสบ เกิดโรคโลหิตจาง ทางเดินปัสสาวะอักเสบ ทำลายสี ของผิวหนังและเล็บมือ ทำให้ผิวบางขึ้นเรื่อยๆ เกิดการแพ้หรือเป็นแผลเป็นได้ มี ความเป็นพิษเฉียบพลัน ถูกกำหนดเป็นสารห้ามใช้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2532 และเป็นสารห้ามใช้ ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดวัตถุที่ห้ามใช้เป็นส่วนผสม ใน การผลิตเครื่องสำอาง ลำดับที่ 221 ตามที่ปรากฏในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 125 ตอน พิเศษ 80 ง ลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2551 โดยกำหนดชื่อสารห้ามใช้ คือ “ปรอท และสารประกอบของปรอท”
ที่มา http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/…/…/การฟอกหน้าขาว-อันตราย/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น