++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2558

สโมสรเสวนา มองโจโฉผ่านวรรณกรรม

"สโมสรเสวนา" กิจกรรม ๑ ของ มูลนิธิสโมสรมิตรภาพวัฒนธรรมสากล ในไตรมาศแรก โคจรมาถึงครั้งที่ ๓ ในหัวข้อ "มองโจโฉผ่านวรรณกรรมและประวัติศาสตร์" โดยเฉพาะรอบนี้จัดขึ้นพิเศษในวาระที่ ทองแถม นาถจำนง ผู้ก่อตั้งมูลนิธิฯ จะมีอายุครบ 60 ปี ในวันที่ ๑๐ กรกฎาคม นี้ (ซึ่งจะมีกิจกรรม "สโมสรเสวนา" ครั้งที่ ๖ ในวาระอายุมมงคล ณ สถาบันคึกฤทธิ์ ภายใต้หัวข้อ 60 ปี ทองแถม นาถจำนง ๔ มิติใน ๔ ทศวรรษ ๑. ประวัติศาสตร์ ๒.จีนศึกษา ๓.กวี ๔.เส้นทางสายฝันจากเชียงใหม่สู่เซียงไฮ้)
๑๕ กรกฎาคม ตรงกับวันสิ้นพระชนม์ของ วุ่ยยอ๋องโจโฉ จึงเป็นที่มาของหัวข้อนี้ กิจกรรมมีขึ้น หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจาก สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม และเจ้าภาพร่วมอย่าง สำนักพิมพ์สุขภาพใจ,บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ,บริษัทสถาพรบุ๊คส์ จำกัด เป็นต้น
นอกจากการชมภาพยนตร์สามก๊ก ฉบับ ค.ศ.1994 สำนวนแปลของ ทองแถม นาถจำนง และอ่านบทกวีโดย บันเทิง นราภิรมย์ และ น้องยี่ ชุมนุมวรรณศิลป์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พิธีกรกิตติมศักดิ์ คคุณอี้ - แทนคุณ จิตต์อิสระ ขันอาสาเป็นพิธี
โดยเฉพาะการเสวนาในหัวข้อ "มองโจโฉผ่านวรรณกรรมและประวัติศาสตร์" ชัชวนันท์สันธิเดช สุดยอดแฟนพันธุ์แท้สามก๊กเปี่ยมศักดิ์ คุณากรประทีป ผู้เชี่ยวชาญเรื่องสามก๊ก และยศไกร ส.ตันสกุล ผู้เรียบเรียงจดหมายเหตุสามก๊ก ฉบับเฉินโซ่วด้วย โดยมี ทิมทอง นาถจำนง ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน-ศิษย์รุ่นน้องท่านประธานเหมาฯ ของท่านทองแถม นาถจำนง ดำเนินราย โดยมีคนเข้าร่วมฟังเต็มห้องประชุม และมีแผงหนัสือจำหน่ายราคาถูก ร่วมทั้งคำถามจากผู้ฟังจนเกือบเลยเวลากำหนด 17.00 น.
“โจโฉ” ตัวละครหนึ่งที่มีคนทั้งรักทั้งชังพอๆกันโจโฉจึงเริ่มกลายเป็นแบบอย่างของผู้นำแทนที่ผู้นำแบบเล่าปี่ที่เน้นเพียงคุณธรรมมากกว่าพลังความสามารถ ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวส่งอิทธิพลถึงภาพยนตร์ซีรีส์ดังอย่างสามก๊กในปี2010และสื่อสามก๊กอื่นๆจากจีนโจโฉนอกจากเป็นนักการทหารแล้วยังเป็นกวีนักอักษรศาสตร์นักปกครองอีกด้วย ปัจจุบันเริ่มมีการพูดถึงโจโฉในอีกมิติมากขึ้นกว่าบทบาทในวรรณกรรม
การเชื่อมโยงประวัติศาสตร์นั้นประวัติศาสตร์และวรรณคดีจะแยกจากกันไม่ได้เพราะวรรณคดีเป็นหลักฐานหนึ่งของการศึกษาประวัติศาสตร์ก่อนจะเป็นวรรณกรรมสามก๊กนั้นเป็นจดหมายเหตุมาก่อนซึ้งเขียนในสมัยพระเจ้าสุมาเอี๋ยนผู้รวบรวมแผ่นดินจีนเป็นเอกภาพหลังจากยุคสามก๊ก ซึ่งหลังการเสวนาวันที่6มีนาคมเราจะไปภาคสนามกันที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลเหยเป่ย ไปสุสานที่ครั้งหนึ่งเป็นสมรภูมิรบที่โจโฉแตกทัพเรือ ในวันที่12-17 มีนาคม โดยมีคณะผู้ร่วมเดินทางทั้งสิ้น 20 คน ผู้ร่วมคณะไม่ว่าจะเป็น พงษ์ศักดิ์ พยัฆวิเชียร นักสื่อสารมวลชนอาวุโส,อัศศิริ ธรรมโชติ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์,สุมาลี สุวรรณกร ประธานสโมสรนักเขียนภาคอีสาน ,วิษณุ เอื้อชูเกียรติเป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น